ทำไม Android POS บนคลาวด์ถึงกำลังปฏิวัติเทคโนโลยีการชำระเงิน
วิธีที่ระบบ POS บน Android ที่ใช้คลาวด์เปลี่ยนแปลงโครงสร้างพื้นฐานการชำระเงิน
จากระบบที่ล้าหลังไปสู่โซลูชันคลาวด์ที่คล่องตัว
ระบบที่ล้าสมัยอาจใช้งานได้ดีสำหรับการทำธุรกรรมง่ายๆ แต่ก็เป็นอุปสรรคต่อธุรกิจในปัจจุบัน เนื่องจากค่าบำรุงรักษาระดับสูงและขาดความยืดหยุ่น จากการวิจัยพบว่า บริษัทประมาณสองในสามต้องเผชิญกับปัญหาโครงสร้างเทคโนโลยีที่ล้าสมัย ซึ่งไม่สามารถตอบสนองความต้องการของตลาดในปัจจุบันได้ ตามรายงานของวารสารเทคโนโลยีสารสนเทศทางธุรกิจ ในทางกลับกัน ทางเลือกที่ใช้ระบบคลาวด์ เช่น Cloud POS สามารถมอบสิ่งที่ธุรกิจต้องการได้ดีกว่า นั่นคือความสามารถในการปรับขยายหรือลดขนาดการดำเนินงานได้ตามต้องการ เช่น กรณีของ WizarPOS ที่สามารถนำระบบขายหน้าร้าน (POS) บนแพลตฟอร์ม Android ไปใช้งานได้ผ่านเทคโนโลยีคลาวด์ ทำให้ลูกค้าสามารถชำระเงินได้อย่างราบรื่น โดยไม่ต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพง ข้อมูลยังยืนยันเรื่องนี้ด้วย โดยการใช้งาน SoftPOS ทั่วโลกเพิ่มขึ้นจากประมาณ 6 ล้านร้านค้าในปี 2022 และมีการคาดการณ์ว่าจะเพิ่มขึ้นใกล้เคียง 34.5 ล้านร้านค้าภายในปี 2027 ตามรายงานจาก Juniper Research
ข้อได้เปรียบด้านความคุ้มค่าและความสามารถในการขยายตัว
การเปลี่ยนไปใช้ระบบ Android POS ที่อยู่บนคลาวด์ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้มาก เนื่องจากธุรกิจไม่จำเป็นต้องลงทุนซื้อฮาร์ดแวร์ที่มีราคาแพงในช่วงเริ่มต้น บริษัทที่เปลี่ยนไปใช้ระบบนี้มักจะเห็นการประหยัดค่าใช้จ่ายได้ราว 25-30% ซึ่งช่วยให้มีเงินทุนส่วนเพิ่มเพื่อลงทุนในส่วนอื่น ๆ ของกิจการ สิ่งที่ทำให้ระบบเหล่านี้มีคุณค่าอย่างแท้จริงคือความง่ายดายในการขยายระบบให้ใหญ่ขึ้นหรือเล็กลงตามความต้องการของธุรกิจ ตัวอย่างเช่น WizarPOS ใช้เทคโนโลยีที่เรียกว่า remote key injection ซึ่งช่วยลดปัญหาในการจัดการสินค้าคงคลังและช่วยประหยัดเวลาของพนักงานในการตั้งค่าต่าง ๆ พ่อค้าแม่ค้าชื่นชอบที่สามารถเสียบเครื่องปลายทาง (terminals) ได้ทุกที่ที่ต้องการ โดยไม่ต้องยุ่งกับขั้นตอนการตั้งค่าที่ซับซ้อน โซลูชันการชำระเงินที่ยืดหยุ่นแบบนี้เติบโตไปพร้อมกับธุรกิจ จัดการได้ทั้งธุรกรรมเล็กน้อยในชีวิตประจำวันไปจนถึงช่วงเวลาที่ปริมาณยอดขายเพิ่มขึ้นสูงสุดในช่วงฤดูกาลท่องเที่ยว
การวิเคราะห์ข้อมูลแบบเรียลไทม์สำหรับการตัดสินใจที่ชาญฉลาดกว่า
ระบบ Android POS ที่ใช้คลาวด์พร้อมการวิเคราะห์แบบเรียลไทม์กำลังเปลี่ยนวิธีที่ธุรกิจตัดสินใจในทุกๆ วัน การวิจัยแสดงให้เห็นว่า บริษัทที่ใช้แนวทางที่อ้างอิงข้อมูลมักจะเพิ่มรายได้ขึ้นประมาณ 5% ตามรายงานของวารสาร Journal of Data Analytics ระบบที่ว่านี้ทำให้เจ้าของธุรกิจสามารถเข้าถึงข้อมูลใหม่ๆ ได้ตลอดเวลา เพื่อให้พวกเขาสามารถปรับปรุงการดำเนินงานในแต่ละวัน ปรับกลยุทธ์ทางการตลาด และพัฒนาประสบการณ์ของลูกค้าขณะมาจับจ่ายซื้อของ ตัวอย่างเช่น WizarPOS ซึ่งมีโซลูชัน Android POS ที่ให้การวิเคราะห์แบบทันที ณ จุดขายสินค้า พ่อค้าแม่ค้าจะได้รับข้อมูลเชิงลึกที่เป็นประโยชน์เกี่ยวกับระดับสต็อก สินค้าที่ขายดีที่สุด และแม้กระทั่งนิสัยการซื้อของลูกค้าในระหว่างที่มีการทำธุรกรรมเกิดขึ้น ความสามารถในการตอบสนองข้อมูลเหล่านี้ในขณะที่ยังทันสมัยอยู่ ช่วยมอบความได้เปรียบทางธุรกิจที่แท้จริงในตลาดที่แข่งขันสูงยิ่งในปัจจุบัน
นวัตกรรมด้านความปลอดภัยในระบบ Android POS บนคลาวด์
การฉีดกุญแจจากระยะไกล (Remote Key Injection - RKI) เพื่อป้องกันการทุจริต
การฉีดกุญแจจากระยะไกล หรือ RKI ถือเป็นนวัตกรรมที่เปลี่ยนแปลงเกมอย่างแท้จริงในแง่ของการลดความเสี่ยงจากการฉ้อโกงในระบบการชำระเงินต่าง ๆ ตอนนี้ธุรกิจสามารถอัปเดตคีย์เข้ารหัสข้อมูลสำคัญบนอุปกรณ์จุดขายจากระยะไกลได้ ซึ่งช่วยกำจัดความยุ่งยากในการส่งคนไปดำเนินการที่สถานที่จริงด้วยตนเอง กระบวนการที่อาจเปิดช่องโหว่ด้านความปลอดภัย ผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมต่างเน้นย้ำถึงความสำคัญของเทคโนโลยีนี้ในโลกการชำระเงินปัจจุบัน ซึ่งวิธีการแบบดั้งเดิมไม่สามารถรับมือกับวิธีการฉ้อโกงที่ล้ำหน้าขึ้นได้อีกต่อไป ดูจากตัวเลขแล้ว ธุรกิจที่นำ RKI มาใช้รายงานว่ามีคดีการฉ้อโกงลดลงราว 60 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับบริษัทที่ยังยึดมั่นในมาตรการความปลอดภัยแบบดั้งเดิม ด้วยความรวดเร็วในการเปลี่ยนแปลงด้านความปลอดภัยของการชำระเงินในปัจจุบัน การผสาน RKI เข้ากับระบบ Android POS ที่ใช้งานบนคลาวด์ไม่ใช่เพียงแค่การตัดสินใจทางธุรกิจที่ชาญฉลาด แต่แทบจะเป็นสิ่งจำเป็น หากผู้ค้าต้องการปกป้องการทำธุรกรรมให้ปลอดภัยจากสายตาที่ไม่พึงประสงค์
PCI Compliance และ End-to-End Encryption
การปฏิบัติตามมาตรฐาน PCI ไม่ใช่เพียงแค่รายการสิ่งที่ธุรกิจต้องตรวจสอบเมื่อใช้ระบบขายผ่านหน้าร้านแบบคลาวด์ (point of sale systems) เท่านั้น แต่จริงๆ แล้วมีความสำคัญมาก เพราะมาตรฐานเหล่านี้มีไว้เพื่อปกป้องข้อมูลของผู้ถือบัตรไม่ให้ถูกโจรกรรม บริษัททุกแห่งที่ดำเนินการประมวลผลบัตรเครดิตจะต้องปฏิบัติตามโดยไม่มีข้อยกเว้น ในขณะเดียวกัน การเข้ารหัสแบบ end to end ก็ช่วยปกป้องข้อมูลลูกค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระหว่างการทำธุรกรรม โดยหลักการคือ การทำให้ข้อมูลถูกเข้ารหัสจนไม่สามารถอ่านได้ยกเว้นแต่เฉพาะผู้ที่ได้รับอนุญาต ข้อมูลเชิงสถิติก็สนับสนุนเรื่องนี้เช่นกัน จากการศึกษาหลายครั้งพบว่า ระบบเข้ารหัสมีโอกาสประสบกับการละเมิดข้อมูล (data breaches) น้อยลงถึง 80 เปอร์เซ็นต์ เมื่อเทียบกับระบบไม่ได้เข้ารหัส เมื่อใดก็ตามที่ใช้ระบบ Android POS บนคลาวด์ การเพิ่มเลเยอร์การเข้ารหัสนี้จึงมีความสำคัญทั้งในแง่ความปลอดภัยและสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้า เพราะไม่มีใครต้องการให้ข้อมูลทางการเงินส่วนตัวลอยว่อนอยู่ในอินเทอร์เน็ตโดยไม่มีการป้องกัน
การตรวจสอบอย่างต่อเนื่องพร้อมบริการการยืนยัน
การเฝ้าดูสิ่งต่าง ๆ อยู่ตลอดเวลาช่วยลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยในการชำระเงิน โดยเฉพาะเมื่อรวมเข้ากับบริการรับรองที่คอยตรวจสอบว่าระบบการชำระเงินทำงานได้อย่างเหมาะสม ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ส่วนใหญ่จะยืนยันว่า การตรวจสอบแบบเรียลไทม์พร้อมกับการแจ้งเตือนทันทีที่เกิดปัญหานั้นสร้างความแตกต่างอย่างมาก เมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้น ระบบจะตรวจจับได้อย่างรวดเร็วและตอบสนองก่อนที่ปัญหาจะลุกลาม บริการรับรองเหล่านี้จะช่วยตรวจสอบซ้ำว่าทุกอย่างเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยที่กำหนดไว้ โดยการยืนยันการทำงานของซอฟต์แวร์และค่าต่าง ๆ ที่ใช้งานอยู่ตลอดเวลา สำหรับบริษัทที่ดำเนินงานบนระบบขายหน้าร้านแบบ Android บนคลาวด์ การนำบริการประเภทนี้มาใช้งานช่วยเพิ่มการป้องกันการโจมตีจากแฮกเกอร์ได้ดียิ่งขึ้น สรุปให้เข้าใจง่าย ๆ ก็คือ มีการละเมิดข้อมูลน้อยลง ปัญหาต่าง ๆ ลดลง และลูกค้ารู้สึกปลอดภัยมากขึ้นเมื่อทำการซื้อสินค้า เพราะรู้ว่าข้อมูลของพวกเขาไม่ได้ถูกทิ้งไว้ให้เป็นเป้าหมายของอาชญากรไซเบอร์
การนำไปใช้ในอุตสาหกรรมเพื่อผลักดันการยอมรับ
ค้าปลีก: ปรับกระบวนการชำระเงินให้รวดเร็วด้วยเทคโนโลยี NFC
การเพิ่มขึ้นของเทคโนโลยีการสื่อสารในระยะใกล้ หรือ เทคโนโลยี NFC ได้เปลี่ยนวิธีที่ผู้คนชำระเงินที่ร้านค้า ส่งผลให้การชำระเงินโดยรวมรวดเร็วและง่ายดายมากยิ่งขึ้น ด้วยอุปกรณ์ที่รองรับ NFC ผู้ซื้อสามารถแตะโทรศัพท์มือถือหรือบัตรของตนกับเครื่องอ่านแทนที่จะหาเงินสดหรือรอให้บัตรเครดิตผ่านเครื่องแบบเดิม ส่งผลให้ใช้เวลาน้อยลงในการยืนเข้าคิว และได้สิ่งที่ต้องการโดยไม่ต้องพบกับความยุ่งยาก ผู้ค้ารายย่อยหลายคนรายงานว่าลูกค้ามีความพึงพอใจมากขึ้นนับตั้งแต่เริ่มใช้ระบบชำระเงินแบบไม่สัมผัส เนื่องจากธุรกรรมดำเนินไปอย่างราบรื่นโดยไม่มีการสะดุด ตัวเลขก็ยืนยันเช่นนั้นเช่นกัน — จากการเพิ่มขึ้นของการชำระเงินแบบไม่สัมผัสจากประมาณ 195 พันล้านครั้งในปี 2022 ไปสู่การคาดการณ์ที่เกือบ 408 พันล้านครั้งภายในปี 2027 เมื่อผู้บริโภคต้องการบริการที่รวดเร็วมากขึ้น NFC ยังคงมีบทบาทสำคัญในการรักษาความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจค้าปลีก และตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่ต้องการเพียงแค่การเข้าถึงสินค้าอย่างรวดเร็ว
ร้านอาหารและรถขายอาหาร: ความยืดหยุ่นของระบบ POS แบบเคลื่อนที่
ระบบขายหน้าร้านแบบเคลื่อนที่ หรือระบบ POS กำลังได้รับความนิยมอย่างมากในร้านอาหารและรถขายอาหารเคลื่อนที่ในปัจจุบัน เนื่องจากให้ความยืดหยุ่นในการทำธุรกรรมและการเพิ่มประสิทธิภาพการบริการลูกค้าโดยรวม ร้านอาหารสามารถรับชำระเงินได้ทุกที่ตามที่ต้องการ ซึ่งช่วยลดเวลาการรอคอยและป้องกันข้อผิดพลาดของคำสั่งซื้อ ที่ร้านอาหารจริง พนักงานเสิร์ฟสามารถตรวจสอบคำสั่งซื้อของลูกค้าได้ทันทีที่โต๊ะของพวกเขา และดำเนินการชำระเงินได้เลย ซึ่งช่วยให้ลูกค้าพึงพอใจ และทำให้ลูกค้าออกได้เร็วขึ้น ตัวเลขบ่งชี้ว่ามีร้านอาหารจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่หันมาใช้เทคโนโลยี POS แบบเคลื่อนที่ ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เพราะลูกค้าในปัจจุบันต้องการความสะดวกและความรวดเร็ว โดยเฉพาะช่วงเวลาเร่งด่วนในช่วงเที่ยงหรือช่วงเย็น เจ้าของร้านอาหารต่างเห็นถึงแนวโน้มนี้ที่เกิดขึ้นอย่างแพร่หลาย ตั้งแต่ร้านคาเฟ่เล็ก ๆ ไปจนถึงเครือร้านอาหารขนาดใหญ่
การขนส่งและการจัดการกิจกรรม: โซลูชัน SoftPOS
เทคโนโลยี SoftPOS กำลังเปลี่ยนวิธีที่บริการขนส่งและผู้จัดการงานอีเวนต์ดำเนินการชำระเงิน โดยช่วยให้ผู้คนสามารถชำระเงินได้โดยตรงจากโทรศัพท์มือถือของตนเอง บริษัทขนส่งและผู้วางแผนจัดงานสามารถให้ลูกค้าใช้สมาร์ทโฟนแตะชำระเงินแทนการงมเงมหาบัตรเครดิตหรือบัตรเดบิต ข้อดีที่สำคัญคือ ลดการใช้เครื่องอ่านบัตรขนาดใหญ่ที่เราคุ้นเคยกันดี ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและยังดูเรียบร้อยมากขึ้น ในปัจจุบันมีธุรกิจจำนวนมากขึ้นเรื่อย ๆ ที่หันมาใช้ SoftPOS โดยเฉพาะตามสถานีรถไฟและงานคอนเสิร์ตที่ทำให้ผู้คนขึ้นรถได้รวดเร็วขึ้นและลดเวลารอคิว รายงานจากอุตสาหกรรมคาดการณ์ว่า ภายในปี 2027 อาจมีผู้ประกอบการราว 34.5 ล้านรายทั่วโลกใช้งาน SoftPOS ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความรวดเร็วในการขยายตัวของเทรนด์นี้ในทุกภาคส่วนธุรกิจ
แนวโน้มในอนาคตที่กำลังสร้างเทคโนโลยีการชำระเงินบนคลาวด์
การพยากรณ์สต็อกและยอดขายที่ขับเคลื่อนด้วยปัญญาประดิษฐ์ (AI)
ธุรกิจที่พึ่งพาบนระบบขายผ่านคลาวด์ (POS) กำลังพบว่าเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) เปลี่ยนแปลงวิธีการจัดการสินค้าคงคลังและทำนายแนวโน้มการขาย เมื่ออัลกอริทึมอัจฉริยะเหล่านี้วิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมาก พวกมันจะสามารถคาดการณ์ได้แม่นยำขึ้นว่าสินค้าใดจะขายดีเมื่อใด ช่วยให้ร้านค้าไม่ต้องเผชิญกับปัญหาสินค้าคงคลังมากเกินไปหรือไม่เพียงพอในมือ ตัวอย่างเช่นในช่วงเทศกาลช้อปปิ้งวันคริสต์มาส ผู้ค้าปลีกส่วนใหญ่มักมีปัญหาในการสั่งสินค้าให้เพียงพอโดยไม่สั่งซื้อเกินความจำเป็น แต่บริษัทที่ใช้เครื่องมือ AI จะสามารถคาดการณ์ล่วงหน้าได้หลายสัปดาห์ และปรับคำสั่งซื้อให้เหมาะสมตามนั้น การศึกษาบางชิ้นบ่งชี้ว่าการนำ AI มาใช้ในกระบวนการทำงานของธุรกิจค้าปลีก ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของพนักงานได้ประมาณ 40 เปอร์เซ็นต์ และทำให้การทำนายยอดขายแม่นยำขึ้นประมาณ 30 เปอร์เซ็นต์ การปรับปรุงเหล่านี้ส่งผลโดยตรงให้การดำเนินงานในทุกๆ วันมีความราบรื่นมากยิ่งขึ้น
การบูรณาการ IoT สำหรับประสบการณ์พาณิชย์แบบรวมศูนย์
เมื่อเทคโนโลยีอินเทอร์เน็ตของสรรพสิ่ง (IoT) ผสานเข้ากับการชำระเงินผ่านระบบคลาวด์ ประสบการณ์ของผู้ซื้อจะลื่นไหลมากยิ่งขึ้น เนื่องจากอุปกรณ์และเว็บไซต์ต่างๆ ที่เคยแยกส่วนกัน จะเริ่มเชื่อมโยงและทำงานร่วมกันได้อย่างไร้รอยต่อ ร้านค้าในปัจจุบันต่างมุ่งมั่นที่จะสร้างประสบการณ์ที่สม่ำเสมอให้กับลูกค้าไม่ว่าพวกเขาจะใช้งานผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ เดินเลือกชมสินค้าในร้าน หรือเปิดเว็บไซต์จากที่บ้าน ลองดูตัวอย่างจากแบรนด์ใหญ่อย่าง Amazon และ Walmart ที่กำลังนำหน้าเทรนด์นี้ พวกเขามีเทคโนโลยีชั้นวางสินค้าอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับได้ว่าสินค้าใกล้หมดหรือไม่ รวมถึงมีทางเลือกในการชำระเงินผ่านมือถือ เพื่อให้ลูกค้าไม่ต้องเสียเวลาเข้าแถวอีกต่อไป สิ่งเหล่านี้ส่งผลอย่างไรกับผู้บริโภคทั่วไป? คือการได้รับข้อมูลแบบเรียลไทม์เกี่ยวกับสินค้าที่มีอยู่จริงในร้าน พร้อมคำแนะนำที่ถูกคัดสรรมาเฉพาะตัวสำหรับครั้งต่อไปที่ลูกค้าจะมาจับจ่ายซื้อของ ความพึงพอใจของลูกค้าย่อมเพิ่มขึ้นเมื่อทุกสิ่งทำงานได้อย่างราบรื่นเช่นนี้
การขยายตัวทั่วโลกของมาตรฐานการชำระเงินแบบไร้สัมผัส
ระบบการชำระเงินแบบไม่ต้องสัมผัสกำลังได้รับความนิยมไปทั่วโลก และหลายประเทศกำลังเริ่มหันมาใช้วิธีการชำระเงินที่เป็นมาตรฐานร่วมกัน ทำไมถึงเป็นเช่นนั้น? เนื่องจากผู้บริโภคต้องการความรวดเร็วและความปลอดภัยในการซื้อสินค้า และการแตะการ์ดหรือโทรศัพท์มือถือเพื่อชำระเงินนั้นสะดวกกว่าการงมเงินสดหรือลงลายมือชื่อ ข้อมูลล่าสุดแสดงให้เห็นว่า ในพื้นที่การค้าขนาดใหญ่ การซื้อขายมากกว่าครึ่งหนึ่งเกิดขึ้นโดยไม่ต้องสัมผัสสิ่งใดเลย และผู้เชี่ยวชาญคาดว่าตัวเลขดังกล่าวจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า แม้ระบบที่กล่าวมานี้จะช่วยให้ชีวิตของลูกค้าง่ายขึ้นแล้ว ยังมีอีกมุมหนึ่งที่สำคัญ นั่นคือ ระบบมาตรฐานเหล่านี้ช่วยให้ธุรกิจสามารถดำเนินการชำระเงินข้ามพรมแดนได้อย่างราบรื่นมากยิ่งขึ้น ซึ่งเปิดโอกาสใหม่ๆ ในการขายสินค้าสู่ตลาดระหว่างประเทศ อย่างไรก็ตาม ยังมีพ่อค้าแม่ค้าบางส่วนที่กังวลเกี่ยวกับค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนโครงสร้างพื้นฐาน
ผลิตภัณฑ์แนะนำ
ข่าวเด่น
-
การ์ดสมาร์ท 2019
2024-01-23
-
Trustech 2019
2024-01-12
-
ฟิวเตอร์คอม 2019
2024-01-12
-
การชําระเงินแบบไร้ขัดแย้ง เอเชีย 2020
2024-01-12
-
ตะวันออกกลางที่เรียบร้อย 2022
2024-01-12